ปัจจุบันการผ่าตัดผ่านกล้องแบบแผลเล็กช่วยลดอาการบาดเจ็บ ทำให้คนไข้ฟื้นตัวได้เร็ว และหมดปัญหาหน้าท้องมีแผลยาวไม่สวยงาม ด้วยเทคโนโลยีการผ่าตัดแผลเล็กที่ทันสมัย Advanced 3D Laparoscopic Surgery หรือเทคโนโลยีผ่าตัดส่องกล้อง 3 มิติ จะช่วยเพิ่มความแม่นยำให้แพทย์เห็นรายละเอียดเชิงลึกได้ชัดเจน สามารถกะระยะได้ตรงจุด เสมือนเข้าไปผ่าตัดอยู่ในท้องของคนไข้ ช่วยให้การเนื้องอกมดลูกมีความปลอดภัยและรวดเร็วมากกว่าการผ่าตัดเปิดแผลแบบเดิม โดยเฉพาะ ผ่าตัดซีสต์ หรือ ผ่าตัดมดลูก
เทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับผ่าตัดรักษาโรคทางนรีเวช ทั้งโรคซีสต์ ช๊อกโกแลคซีสต์ ผ่าตัดซีสต์ เนื้องอกในโพรงมดลูก เนื้องอกมดลูก และรังไข่ การผ่าตัดไส้ติ่งทางหน้าท้อง เลาะผังผืดในอุ้งเชิงกราน การฉีดสีตรวจดูท่อนำไข่ การผ่าตัดในกรณีตั้งครรภ์นอกมดลูก ผ่าตัดมดลูก ประจำเดือนมากผิดปกติจากเยื่อบุโพรงมดลูกหนา และการผ่าตัดทำหมัน
การรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที ช่วยเพิ่มโอกาสหายจากโรคได้มากขึ้น แต่หากปล่อยให้อาการผิดปกติลุกลาม หรือก้อนซีสต์มีขนาดใหญ่ จนถุงน้ำแตกรั่วซึม จะยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่ผู้ป่วยจะเสียเลือดจนเสียชีวิต หรือกลับมาเป็นซ้ำ ทำให้การรักษาทำได้ยากขึ้น
เพราะเรารู้ว่า ผู้หญิงแต่ละวัยต้องการความละเอียดอ่อนที่แตกต่างกัน อย่างเช่น ผ่าตัดเนื้องอกมดลูก ผ่าตัดซีสต์ เราจึงใส่ใจคัดสรรเทคโนโลยีการแพทย์ทันสมัยพร้อมดูแลผู้หญิงทุกช่วงวัย เช่นคุณ
คำถาม
1. กล้อง 3 มิติ มีส่วนช่วยในการผ่าตัดทางนรีเวชอย่างไร?
การผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวชมีมานานกว่า 20 ปีแล้ว ในปัจจุบันเราสามารถใช้การผ่าตัดผ่านกล้องรักษาโรคทางนรีเวชที่ต้องรักษาด้วยการผ่าตัดได้เกือบทุกโรค เช่น ผ่าตัดมดลูก ผ่าตัดซีสต์ เนื้องอกมดลูก ถุงน้ำรังไข่ ซึ่งเป็นโรคที่พบบ่อยมาก ส่วนใหญ่การผ่าตัดรักษาโรคมะเร็งทางนรีเวชก็ทำได้มากขึ้น เช่นมะเร็งปากมดลูก มะเร็งมดลูก และมะเร็งรังไข่ที่มีก้อนไม่ใหญ่มาก ข้อจำกัดของการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช คือ การผ่าตัดมะเร็งรังไข่ หรือเนื้องอกมดลูกที่มีขนาดใหญ่มาก
ส่องกล้อง 3 มิติ เป็นวิวัฒนาการใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพให้กับกล้อง เพิ่มมิติความลึกของการมองเห็น ภาพที่ได้จึงเสมือนจริง ชัดเจน เช่นเดียวกับการชมภาพยนตร์ 3 มิติ การผ่าตัดผ่านกล้อง 3 มิติ ทางนรีเวช จึงให้ความปลอดภัย ความแม่นยำ และช่วยละระยะเวลาการผ่าตัด มีงานวิจัยที่เป็นข้อมูลแจ้งประจักษ์ว่า การใช้กล้อง 3 มิติ ให้ความปลอดภัยในการทำการผ่าตัดสูงกว่าการใช้กล้องแบบ 2 มิติ ซึ่งเป็นความปรารถนาของทุกคน ทั้งผู้ป่วย และ แพทย์
ส่องกล้อง 3 มิติ เป็นวิวัฒนาการใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพให้กับกล้อง เพิ่มมิติความลึกของการมองเห็น ภาพที่ได้จึงเสมือนจริง ชัดเจน เช่นเดียวกับการชมภาพยนตร์ 3 มิติ การผ่าตัดผ่านกล้อง 3 มิติ ทางนรีเวช จึงให้ความปลอดภัย ความแม่นยำ และช่วยละระยะเวลาการผ่าตัด มีงานวิจัยที่เป็นข้อมูลแจ้งประจักษ์ว่า การใช้กล้อง 3 มิติ ให้ความปลอดภัยในการทำการผ่าตัดสูงกว่าการใช้กล้องแบบ 2 มิติ ซึ่งเป็นความปรารถนาของทุกคน ทั้งผู้ป่วย และ แพทย์
2. โรคไหนที่เน้นการผ่าตัดผ่านกล้องแบบ 3 มิติ?
โรคที่ผ่าตัดได้ใช้กล้องแบบ 2 มิติ ทุกโรคดังได้กล่าวข้างต้น สามารถใช้กล้อง 3 มิติ ได้ทั้งหมด ในกรณีโรคที่ยากขึ้น เช่น มีพังผืดมาก การใช้กล้อง 3 มิติ จะช่วยให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ง่ายและสะดวกสำหรับการผ่าตัด จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการผ่าตัด อย่างเช่น ผ่าตัดซีสต์ ผ่าตัดเนื้องอกมดลูก
3. สูติ-นรีแพทย์ สามารถใช้กล้อง 3 มิติ ทุกคนหรือไม่?
สูติ-นรีแพทย์ ที่ผ่านการฝึกอบรมการผ่าตัดส่องกล้องมาแล้ว จากการใช้กล้อง 2 มิติ สามารถใช้กล้อง 3 มิติ ได้อย่างง่ายดาย สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยการผ่าตัดผ่านกล้องมาก่อน หรือมีประสบการณ์มาน้อย การใช้กล้อง 3 มิติ จะช่วยให้บุคลากรเหล่านี้เรียนรู้การผ่าตัดผ่านกล้องได้ง่ายขึ้น กล้อง 3 มิติ จึงเหมาะสมสำหรับการฝึกอบรมด้วย
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจทางนรีเวชได้ที่
แพคเกจผ่าตัดเหมาจ่ายเบาใจ
ศ.นพ. เสวก วีระเกียรติ (สูติ-นรีแพทย์)
ศูนย์สุขภาพสตรีกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ
- See more at: http://www.bangkokhospital.com/index.php/th/diseases-treatment/advanced-3d-laparoscopic-surgery#sthash.UevGlTYk.dpufศูนย์สุขภาพสตรีกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น